วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Hair Color Chalk


สนุกกับการทำสีผมได้ทุกวัน 
วิธีการทำ เพียงทำให้ผมเปียกหมาดๆแล้วค่อยๆทาๆๆๆๆๆ สีลงไปบนผม
จากนั้นตามด้วยที่เป่าผมหรือที่หนับไฟฟ้า ถ้าไม่อยากให้เปื้อนมือก็ควรใส่ถุงมือและผ้าคลุมเอา


วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

อาหารของเส้นผม


10 อาหารของเส้นผม "บํารุงเส้นผม หนังศีรษะ"



1. ปลาแซลมอน

อาหารที่ไม่ควรมองข้ามเลย นั่นคือ ปลาแซลมอนค่ะ เพราะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงพร้อมทั้งอุดมด้วยวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ดังนั้นการขาดกรดไขมันโอเมก้า 3 จึงทำให้หนังศีรษะแห้งเป็นสาเหตุของรังแคนั่นเอง




2. ผักใบเขียวเข้ม

ผักเหล่านี้ก็อย่างเช่น ผักโขม บร็อกโคลี่ คือ แหล่งรวมมิตามินเอและซี ที่ร่างกายของเราต้องการเพื่อสร้างไขมันผิวหนังค่ะ โดยน้ำมันจากรากผมของเรานั่นแหละคือสิ่งที่บำรุงผมเราได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ผักใบเขียวเข้มยังช่วยสร้างธาตุเหล็กและแคลเซียมที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายอีกด้วยนะคะ

3. ถั่ว

ถั่วเนี่ยนะคะที่จะดีต่อผมของคุณ ใช่แล้วค่ะ เจ้าถั่วที่มีรูปร่างคล้ายกรวยไตนี่แหละค่ะ ที่เป็นอาหารเพื่อการดูแลสุขภาพผมได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างโปรตีนเพื่อการเจริญเติบโตของเส้นผมแล้วยังช่วยสร้างธาตุเหล็ก สังกะสีและไบโอทินจำนวนมาก ซึ่งไบโอทินยังช่วยให้เส้นผมไม่เปราะบางอีกด้วยนะคะ




4. ถั่วเปลือกแข็ง

คุณอยากให้เส้นผมของคุณดูหนานุ่มสลวยหรือไม่คะ? ถ้าอยากก็ต้องรับประทานถั่วเปลือกแข็งต่าง ๆ เพราะเป็นแหล่งสะสมธาตุซีลีเนียม สารธรรมชาติซึ่งช่วยเสริมสร้างหนังศีรษะให้แข็งแรงเพื่อช่วยให้ผมไม่ขาดหลุดร่วงได้ง่ายค่ะ นอกจากนี้ยังมีถั่วชนิดอื่น ๆ เช่น วอลนัทซึ่งมีส่วนประกอบของกรดโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยเพิ่มความนุ่มให้แก่เส้นผม เม็ดมะม่วงหิมพานต์และเม็ดอัลมอนด์มีส่วนประกอบของธาตุสังกะสีที่ช่วยให้เส้นผมไหลลื่นค่ะ ดังนั้นให้แน่ใจว่าคุณรับประทานจำพวกถั่วเปลือกแข็งอยู่เสมอนะคะ อาจจะนำมาเคี้ยวเพลิน ๆ เวลาดูทีวีก็ได้นะ



5. อาหารจำพวกสัตว์ปีก

อาหารเหล่านี้ให้โปรตีนที่ช่วยเสริมสร้างเส้นผมอยู่แล้วซึ่งช่วยให้ผมไม่เปราะบางขาดง่ายค่ะ นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็กในปริมาณมากซึ่งทำให้ร่างกายของคุณได้รับประโยชน์อีกด้วยนะคะ





6. ไข่

ไข่ที่ว่านี้สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายรูปแบบนะคะ ไม่ว่าจะเป็นการทอด ตุ๋น ต้ม แต่ก็ล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพผมเช่นกันค่ะ เพราะไข่เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมอีกแหล่งหนึ่งที่ช่วยบำรุงเส้นผม นอกจากนี้ไข่ยังมีส่วนประกอบของไบโอทีนและวิตามินบี 12 ซึ่งเป็นแหล่งโภชนาการสำหรับเส้นผมค่ะ





7. ธัญพืช

อาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชไม่ว่าจะเป็นขนมปังโฮลวีตหรือจำพวกซีเรียลต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของธาตุเหล็ก สังกะสีและวิตามินบี หรือ หากในชั่วโมงเร่งด่วน เราอาจทานของขบเคี้ยวโฮลวีตก็ช่วยเพิ่มพลังงานให้ได้




8. หอยนางรม

เรารู้กันดีว่า หอยนางรมมีสารกระตุ้นอารมณ์ทางเพศนะคะ นอกจากนี้มันยังมีประโยชน์กับเส้นผมอีกต่างหาก แล้วแบบนี้ใครจะไม่อยากรับประทานมันอีกล่ะคะ เพราะมันมีสารประกอบของสังกะสีและสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ถ้าคุณไม่ค่อยชอบทานจริง ๆ ก็ทานประเภทธัญพืชและถั่วเปลือกแข็งหรือจะเป็นจำพวกเนื้อวัวและเนื้อแกะที่มีส่วนประกอบของสังกะสีแทนได้นะคะ



9. ผลิตภัณท์นมเนยไขมั่นต่ำ

อาหารประเภทนี้ ก็เช่น นมไขมันต่ำและโยเกริ์ต โดยเป็นแหล่งรวมแคลเซียมซึ่งเป็นส่วนประกอบสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผมค่ะ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของคาซีนซึ่งเป็นโปรตีนจากนมซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงนะคะ อาหารจำพวกนี้หากินได้ตลอดทั้งวันอาจทาน ๆ ง่ายระหว่างวันก็ช่วยให้อิ่มท้องได้ด้วยนะคะ




10. แครอท

แครอทเป็นแหล่งรวมวิตามินเอที่ดีมากนะคะ โดยวิตามินเอนี้ก็ช่วยเสริมสร้างหนังศีรษะให้มีสุขภาพดีเมื่อหนังศีรษะมีสุขภาพดีแล้วก็ทำให้เส้นผมเป็นประกายเงางาม นอกจากนี้หากคุณต้องการไดเอทไปด้วย คุณก็สามารถกินแครอทที่อยู่ในสลัดไปด้วยได้ค่ะ

วิธีป้องกันผมร่วง


วิธีป้องกันผมร่วง "สาเหตุของผมร่วง"

- สาเหตุของผมร่วง หลักๆ


- ได้รับสารเคมีบ่อยๆ เป็นประจำ เช่น น้ำยาดัดผม สเปรย์ คลอรีนที่อยู่ในน้ำ

- ใช้ยาสระผมและครีมนวดผมที่ไม่ถูกกับหนังศีรษะ

- เกิดจากความเครียด

- ติดยาเสพติด ติดบุหรี่

- เป็นโรคร้าย เช่น มะเร็ง

- ขาดสารอาหารโดยเฉพาะโปรตีนจากสัตว์

- ภาวะหลังคลอดบุตร ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ผมที่ร่วงหลุดไปจะมีการสร้างขึ้นมาใหม่อีก





- วิธีป้องกันผมร่วง


- เลือกรับประทานอาหารและของที่มีประโยชน์กับเส้นผม เช่น ธัญพืช ข้าวกล้อง งาดำ เมล็ดทานตะวัน ฟักทอง

- ควรนวดหนังศรีษะเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดเพื่อบำรุงรากผมบ้าง

- ควรทำความสะอาดผมอย่างสม่ำเสมอ

- ควรใส่ครีมบำรุงผม ทุกครั้งที่สระผม

- ควรรับประทานแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อรากผม 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ 

การดูแลผมหยิก ฟู


5 วิธี การดูแลผมหยิก ฟู


1. ไม่ควรสระผมทุกวัน เพราะโดยส่วนใหญ่ผมที่หยิกฟูมีน้ำหนักเบานั้นจะแห้งและดูไร้ชีวิตชีวาอยู่แล้ว ดังนั้นควรสระผม 2-3 วันครั้ง เพื่อให้น้ำมันหล่อเลี้ยงเส้นผมไม่ให้ดูแห้งจนเกินไปและอาจจะทำให้ผมเสียได้ง่าย ๆ

2. ใช้คอนดิชันเนอร์สูตรเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เส้นผม เพราะจะช่วยให้ผมดูมีน้ำหนักขึ้นแต่ควรล้างคอนดิชันเนอร์เป็นเวลา 2 นาทีขึ้นไปนะคะ เพื่อให้แน่ใจว่าผมสะอาดหมดจดแล้วเพราะหากล้างคอนดิชันเนอร์ไม่สะอาดก็อาจทำให้ผมแห้งและรังแคตามมาได้

3. ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม อย่างเซรั่มหรือคอนดิชันเนอร์แบบลีฟออนที่บำรุงผมควรใช้ในช่วงที่ผมกำลังจะแห้งหรือก็คือช่วงที่ผมชื้น ๆ ก่อนเป่าผมด้วยลมเย็นจนแห้ง

4. หลังจากผมแห้งแล้ว ใช้มูสที่ทำให้ผมมีน้ำหนักและจัดทรงได้ง่ายและที่สำคัญควรเลือกใช้มูสที่ทาแล้วไม่มันเกินไป

5. จัดแต่งทรงผมตามปกติ และอย่าลืมใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากมลภาวะต่าง ๆ เพราะผมหยิกฟูจะเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละอองได้ง่าย

และนอกจากการดูแลและจัดแต่งผมตามสไตล์สาวผมหยิกฟูที่แนะนำมาข้างต้นแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สาว ๆ ผมหยิกฟูไม่ควรทำมันบ่อย ๆ คือ การใช้ความร้อนกับเส้นผมทุกชนิด ไม่ว่าจะไดร์ หนีบ หรือม้วน เพราะผมชี้ฟูนั้นบอบบางและเสียได้ง่ายมาก ดังนั้นสาว ๆ อย่าลืมให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วยนะคะ เพื่อผมหยิกที่ดูสุขภาพดีตลอดไปค่ะ

ตัดผมให้เข้ากับรูปหน้า


ตัดผมให้เข้ากับรูปหน้า 




- สาวหน้ารูปไข่

ใบหน้ารูปไข่ คือ สาวที่มีความยาวของใบหน้าเป็น 1.5 เท่าของความกว้าง และมีความกว้างของหน้าผากมากกว่าช่วงกรามเล็กน้อย สาวที่มีใบหน้ารูปไข่จัดว่าโชคดีมากเพราะเป็นใบหน้าที่เข้ากับทรงผมแบบใด ความยาวเท่าไหร่ก็ได้ สาวหน้ารูปไข่สามารถสไลด์ผมที่ช่วงใดช่วงหนึ่งของใบหน้าเพื่อให้ส่วนนั้นเป็นจุดเด่นก็ได้ เช่น หากอยากเน้นแก้มก็สามารถสไลด์ผมที่ระดับแก้มได้ เพียงแต่ระวังไม่ทำทรงผมที่เพิ่มความสูงให้กับศีรษะ เพราะจะทำให้หน้าดูยาวเกินไปนั่นเอง

- สาวหน้ากลม

สาวหน้ากลม มีคางสั้น บางครั้งก็มีแก้มแถมมาด้วยทำให้ความกว้างและความยาวของใบหน้าดูเท่าๆ กันไปหมด ทรงผมที่เข้ากับสาวหน้ากลมควรเป็นทรงผมที่เพิ่มความสูงให้ศีรษะและเล่นระดับจากด้านบนศีรษะลงมาด้านล่างเพื่อเป็นการถ่ายเทน้ำหนักและความอวบกลมของใบหน้าให้กระจายออกไป ส่วนผมข้างๆ ไม่ควรปล่อยให้ฟูเพราะจะยิ่งทำให้ใบหน้าดูกลมเข้าไปใหญ่ ทำผมเรียบๆ หรือจะปล่อยยาวตรงลงมาแล้วเหน็บไว้ข้างหูจะดีกว่าค่ะ

- สาวหน้าลูกแพร์

สาวหน้ารูปลูกแพร์ คือ คนที่มีหน้าผากแคบกว่าช่วงกรามและมีคางเล็กกลม ทรงผมที่เข้ากับรูปหน้าแบบนี้ควรเป็นผมที่ทำแล้วช่วยหลอกตาว่าส่วนหน้าผากมีความกว้างกว่าหรือพอๆ กับช่วงกราม โดยเลือกทรงที่เพิ่มความกว้างให้กับหน้าผากและช่วงขมับนั่นเอง 

- สาวหน้ารูปหัวใจ

ใบหน้ารูปหัวใจมีช่วงกรามเป็นส่วนที่แคบที่สุดของใบหน้าและอยู่ค่อนข้างสูงมีช่วงหน้าผากกว้างและมักมีคางที่แคบประกอบด้วย ทรงผมที่เหมาะกับใบหน้ารูปนี้ควรจะดึงความสนใจออกไปจากบริเวณโหนกแก้มและช่วงคางเพื่อให้ดูกลมกลึงขึ้น อย่างผมผมบ็อบที่เซ็ทปลายสะบัดหรือสไลซ์ปลายดูบางเบาไม่เน้นโหนกแก้มและดูฟุ้งๆ ทำให้คางซอฟท์ลง หรือถ้าเป็นผมยาวจะดัดอ่อนๆ ก็สามารถทำได้ เพราะช่วยบดบังโหนกแก้มและไม่เน้นคางที่เล็กแหลมด้วยค่ะ

- สาวหน้ารูปเพชร

หน้ารูปเพชรมีช่วงโหนกแก้มค่อนข้างกว้าง ในขณะที่หน้าผากและคางแคบ ผมสำหรับหน้ารูปเพชรต้องช่วยพรางโหนกแก้มได้รวมทั้งเพิ่มความกว้างของหน้าผากไปด้วยเช่นกัน

- สาวหน้ารูปเหลี่ยม

หน้าทรงนี้มีหน้าผากกว้าง คางปาด และโหนกแก้มเยอะ ยิ่งมองก็ยิ่งเห็นเป็นรูปเหลี่ยมชัดเจน แบบผมสำหรับหน้าทรงนี้ต้องทำให้หน้าดูซอฟท์ลง การแสกข้างสามารถจะช่วยได้ รวมถึงการสไลด์ไล่ระดับตามกรอบหน้าหรือดัดปลายเป็นลอนอ่อนๆ ก็จะช่วยทำให้ใบหน้าดูนุ่มนวลขึ้นได้ หลีกเลี่ยงบ็อบตรงหรือผมสั้นระดับคาง เพราะจะยิ่งเน้นให้เห็นเหลี่ยมมุมของใบหน้าชัดยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ขอขอบคุณข้อมูลการดูแลเส้นผมจาก lisa ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต 
http://www.n3k.in.th

ทําสีผมให้เข้ากับสีผิว


เคล็ดลับทําสีผมให้เข้ากับสีผิว 

 สำหรับคนที่มีปัญาหาในการเลือกสีผม ว่าจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง สีไหนที่ไม่ทำให้หน้าดูหมองคล้ำ วันนี้เรามีวิธีเลือกสีผมให้เข้ากับสีผิวของเราเพื่อขับสีผิวของเราให้สว่างยิ่งขึ้น 









- ผิวขาวอมชมพู (White Pink) สีผิวนี้อยู่ในกลุ่มโทนอุ่น มักส่งผลให้เจ้าของผิวดูเปล่งปลั่งและดูมีสุขภาพดีกว่าสีผิวอื่น ๆ สีผมที่เหมาะคือ เฉดสีบลอนด์ ควรเลือกบลอนด์ประกายหม่นหรือโทนน้ำตาลทองและทองแดงประกายน้ำตาล ควรเพิ่มเสน่ห์และเสริมความเซ็กซี่ด้วยผมบลอนด์เล่นระดับเฉดสีเสมือนการสร้างมิติให้เส้นผมด้วยการทำไฮไลต์โทนอุ่นหรืออ่อนกว่าพื้นผมหนึ่งระดับ ทำให้ผิวไม่ซีดจางขับผิวให้แลดูเปล่งปลั่งสะท้อนบุคลิกให้ชวนมอง



- ผิวขาวอมเหลือง (Ivory Peach) สีผิวลักษณะนี้จัดอยู่ในกลุ่มโทนเย็น สีผิวนี้บางครั้งอาจทำให้ใบหน้าแลดูซีดเซียวหรือดูเหนื่อยล้าไม่สดใสควรเติมเต็มพลังและความสวยเด่นให้กับใบหน้าด้วยผมโทนสีแดงเจิดจรัสโดดเด่นทันสมัย ควรเลือกสีผมประกายม่วงเหลือบแดง น้ำตาลแดงประกายม่วง หรือแดงเข้มประกายแดง ควบคู่ไปกับทรงผมที่มีการสไลด์สร้างเลเยอร์ดูโฉบเฉี่ยว สดใส และกระฉับกระเฉง


- ผิวสองสีหรือสีผิวน้ำผึ้ง (Golden Beige Amber) สีผิวลักษณะนี้อยู่ในกลุ่มโทนเย็น คนที่มีผิวสองสีมักแฝงเสน่ห์เซ็กซี่อยู่ในตัวเองดูคมและน่ามอง เหมาะกับสีผมโทนสีทองเคลือบประกายทอง สีน้ำตาลอ่อนเรื่อยไปจนถึงสีเนื้อ หรือเลือกทำโลไลต์สีน้ำตาลอ่อนไล่ระดับเพื่อขับเน้นให้ใบหน้าแลดูสว่างขึ้นเผยความเซ็กซี่ที่ซ่อนอยู่ในตัว


- ผิวสีแทนหรือผิวคล้ำเข้ม (Beige Olive) สีผิวลักษณะนี้จัดอยู่ในกลุ่มโทนอุ่น เป็นผิวที่เหมาะกับสีผมน้ำตาลแท้ น้ำตาลช็อกโกแลตและมอคคา เพื่อขับเน้นให้ผิวที่เข้มอยู่แล้วไม่ดูด้านทึบจนเกินไปแต่กลับช่วยเพิ่มความกระจ่างใสขึ้น ควรเพิ่มประกายทองแดง เพิ่มสีสันและมิติด้วยช่อไฮไลต์ไล่ระดับเข้ากันได้ดีกับผมลอนสลวยเพื่อเพิ่มความอ่อนหวานชวนค้นหา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์